หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
บริการของเรา
ห้องพัก
แพ็คเกจและโปรโมชั่น
แจ้งชำระเงิน
ติดต่อเรา
ข้อมูลสุขภาพ
ค้นหาแพทย์
ทำนัด
ติดต่อเรา
แจ้งเตือน
×
ปิดปรับปรุงและอัพเดท ระบบนัดหมาย Online เป็นการชั่วคราว
ขออภัยในความไม่สะดวก
การให้อาหารผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
การให้อาหารผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองทางสาย
การให้อาหารทางสาย หมายถึง การให้อาหารเหลวเข้าทางสายยางให้อาหารเข้าสู่กระเพาะอาหารโดยตรง
จุดประสงค์
1.
เพื่อให้อาหาร น้ำและยา แก่ผู้ป่วยที่มีปัญหาในการให้อาหารทางปาก แต่การทำงานของระบบทางเดินอาหารเป็นปกติ
2.
เพื่อป้องกันภาวะโรคขาดอาหารในผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานตามปกติ
เครื่องใช้
1.
อาหารเหลวตามสูตรที่แพทย์สั่ง จำนวน 150-350 ซี.ซี.ต่อมื้อ ห่าง กันทุก 3-4 ชั่วโมง
2.
แก้วใส่น้ำสะอาด 50-100 ซี.ซี.
3. สำลีชุบน้ำต้มสุก 2-3 ก้อน
4. ภาชนะ และ กระบอกให้อาหารทางสายยาง ปริมาณ 50 ซีซี.
วิธีปฏิบัติ
1.
บอกให้ผู้ป่วยทราบว่ากำลังจะให้อาหาร
2.
จัดผู้ป่วยให้นอนท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน หรือศีรษะสูง เพื่อป้องกันการไหล ย้อนกลับของอาหารเข้าหลอดลม
3.
ล้างมือให้สะอาด
4.
เช็ดปลายสายให้อาหารให้สะอาดด้วยสำลีชุบน้ำต้มสุก
5.
ต่อปลายสายยางเข้ากับกระบอกให้อาหาร แล้วทดสอบให้มั่นใจว่าสาย ให้อาหารอยู่ในกระเพาะอาหารโดยดูดดูน้ำย่อย หรืออาหารเก่าที่ค้างอยู่
6.
ดูดเอาอาหารที่ค้างเก่าในกระเพาะอาหารออกมา ถ้ามีมากกว่า 50 ซีซี ให้ดันกลับเข้าไป เพราะจะต้องเลื่อนเวลาในการให้อาหารมื้อนั้น หรือ อาจจะต้องงดมื้อนั้น เนื่องจากอาหารมื้อก่อนยังดูดซึมไม่หมด ถ้าน้ำ ในกระเพาะอาหารที่ต่ำกว่า 50 ซี.ซี. ให้ดันกลับคืนไป และให้อาหาร ต่อไปได้
7.
เริ่มให้อาหารโดยการพับสายไว้ก่อน และให้อาหารไหลลงกระเพาะ อย่างช้าๆ โดยยกกระบอกให้อาหารสูงกว่าระดับกระเพาะอาหารมาก น้อยขึ้นอยู่กับความหนืดของอาหาร คอยเติมอาหารลงในกระบอก ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปในกระเพาะอาหาร
8.
เตรียมยาหลังอาหารให้พร้อม (ยาเม็ดต้องบดให้ละเอียด ) ให้ยาหลัง อาหาร และให้น้ำตาม 50 ซีซี. เพื่อเป็นการล้างสายให้อาหารให้สะอาด
9.
ยกปลายสายยางให้สูงขึ้น เพื่อไม่ให้อาหารไหลย้อนออกมาคาในสาย แล้วเช็ดปลายสายให้สะอาด ปิดด้วยจุกยางให้แน่น หรือผ้าก๊อส จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าหัวสูงนาน 30-60 นาทีเพื่อให้อาหารไหลลงสู่ทางเดิน อาหารได้สะดวก และ ป้องกันอาหารไหลย้อนกลับขึ้นข้างบน
10.
เก็บข้าวของเครื่องใช้ล้างให้สะอาด และเก็บเข้าที
ข้อควรจำ
1.
ต้องตรวจสายให้แน่ใจว่าสายให้อาหารอยู่ในกระเพาะอาหารก่อนให้ อาหารทุกครั้ง
2.
ถ้าดูดอาหารเก่าที่ค้างอยู่มีมากกว่า 50 ซี.ซี. ควรเลื่อนเวลาให้ หรือ ต้องงดอาหารมื้อนั้น
3.
จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนหัวสูงในขณะให้อาหาร และ เมื่อให้อาหารเสร็จ ควรอยู่ในท่าเดิมนานต่อไปอีก 30-60 นาที
4.
เมื่อให้อาหารเสร็จ ต้องให้น้ำตามทุกครั้ง
5.
ผู้ป่วยที่ใส่สายให้อาหารนาน ควรเปลี่ยนสายให้อาหารเมื่อสายสกปรก
6.
ดูแลรูจมูกให้สะอาด และระวังรอบๆจมูก อย่าให้เกิดแผล ทำความ สะอาดปาก และฟันบ่อยๆ
7.
หมั่นสังเกตอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
อาหารผสม สูตรธรรมดา
ส่วนผสม
1.
ผงถั่วเหลือง/ข้าวต้มเละๆ เอาแต่เนื้อ 16 ช้อนทานข้าว
2.
น้ำต้มสุกเดือดจัด (1,000 ซี.ซี.)
3.
เนื้อสัตว์ทำให้สุก (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ) 0.5 ขีด
4.
ไข่ไก่ลวก (ใช้ทั้งฟอง) 1 ฟอง
5.
ฟักทองเอาแต่เนื้อนึ่งให้สุก 1 ขีด
6.
กล้วยน้ำหว้า/มะละกอสุก นึ่งให้สุก(เอาแต่เนื้อ) 1 ชิ้นเล็กๆ
7.
น้ำมันพืช 1 ช้อนกาแฟ
8.
น้ำตาลทราย 6 ช้อนทานข้าว 9. เกลือ เล็กน้อย
วิธีทำ
1.
นำผงถั่วเหลือง/ข้าวต้มเละๆ เอาแต่เนื้อข้าว และเนื้อสัตว์แล้วกรอง เอากากออกด้วยกระชอน หรือ ผ้าขาวบางก็ได้
2.
นำส่วนผสมข้อที่1 ที่ทำไว้เสร็จแล้ว มาปั่นรวมกับกล้วยน้ำหว้า/ มะละกอสุกที่นึ่งสุกแล้ว นำมาต้มให้เดือด (ระวังไหม้) แล้วกรองเอา กากออก
3.
นำส่วนผสมข้อ 2 มาปั่นผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ น้ำมันพืช และ ไข่ไก่ นำมาปั่นให้ละเอียดอีกครั้ง
4.
นำใส่ภาชนะ เตรียมให้ผู้ป่วย
ข้อควรระวัง
1.
รักษาความสะอาดของวัสดุอุปกรณ์ และขั้นตอนในการท าทุกครั้ง เพราะผู้ป่วยอาจจะท้องเสียได้
2.
อาหารที่จะเสริม ให้กับ ผู้ป่วย โดยเฉพาะนม ควรเริ่มให้ทีละน้อยๆ ก่อนเพื่อดูว่ามีอาการท้องเสียหรือไม่ ถ้าท้องเสียให้หยุดไว้ก่อน แล้ว จึงเริ่มต้นให้ใหม่อีกครั้ง (ให้ลองหลายๆยี่ห้อ) ถ้ายังท้องเสียอยู่ให้เลิก กินนมชนิดนั้นๆไป แต่ถ้าท้องไม่เสียก็ค่อยเพิ่มจำนวน ให้ดูด้วยว่า ผู้ป่วยรับได้หรือไม่
3.
อาหารที่จะเสริมให้กับผู้ป่วยได้ทุกชนิด แต่ ยกเว้น อาหารที่มีกาก มาก รสเผ็ด เปรี้ยว และ หวานมีมันมากๆ
4.
ผักและผลไม้ให้ได้ทุกชนิดที่สามารถคั้นออกมาเป็นน้ำได้ เช่น ส้ม สับปะรด มะนาว เป็นต้น
5.
เนื้อสัตว์ให้ได้ทุกชนิด เช่น ตับให้ลวก เนื้อไก่ต้มให้สุก เลือกเอาแต่ เนื้อแดง (ไม่เอามัน และ หนัง)
6.
อาหารที่สำเร็จแล้วจะต้องไม่มีกาก เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันที่ สายยางให้อาหาร
7.
วิธีการเก็บอาหาร ควรปิดให้สนิท แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น เพื่อป้องกันการ บูดของอาหาร
8.
ก่อนที่จะให้ผู้ป่วยควรนำมาอุ่นให้เดือด แล้วนำมาปั่นและกรองอีกครั้ง ไม่ให้มีกาก เสร็จแล้วตั้งทิ้งไว้ให้เย็นด้วยอุณหภูมิห้อง (อาหารจะต้อง ไม่ร้อนและเย็นจัดจนเกินไป)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การให้อาหารทางสายยาง
แผนกฉุกเฉิน
โทร 045-429100 ต่อ 1107, 1146
อาหารสำหรับผู้ป่วย
แผนกโภชนาการ
โทร 045-429100 ต่อ 1138
แจ้งเตือน
×
Close
....
นโยบายการความเป็นส่วนตัวและเงื่อนไขการใช้บริการผ่านระบบออนไลน์
×
Close
วิสัยทัศน์
โรงพยาบาลอุบลรักษ์ ธนบุรี จะเป็นรพ.เอกชน ตติยภูมิระดับสูงที่ทันสมัย ตามมาตรฐาน เพื่อความไว้วางใจของผู้รับบริการ ในเขตอีสานใต้และCLV
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ยินยอมให้ข้อมูลกับเราโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลเพื่อการขอรับบริการจากเราผ่านช่องทางเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การนัดหมายแพทย์ การทำธุรกรรมแบบออนไลน์ เป็นต้น เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่น บุคคลในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดของท่าน หรือหน่วยงานภาครัฐในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวไว้ หรือเป็นการเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และความปลอดภัย
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรักษาไว้นานเท่าที่จำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ที่อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการทางกฎหมาย เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว หากท่านไม่แสดงความยินยอมให้เราทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป เราจะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามขั้นตอนการทำลายข้อมูลของเราและจะดำเนินการให้เสร็จโดยไม่ชักช้า เราจะใช้มาตรการทางเทคนิค และการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวม เช่น เราใช้โปรโตคอลความปลอดภัย (Secure Sockets Layer: SSL) สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต และเราจะจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของท่าน ไม่ว่าที่จัดเก็บในระบบอินเตอร์เน็ตหรือในรูปแบบเอกสารไว้เฉพาะบุคลากรที่มีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบป้องกันการเข้าถึงโดยจำกัดบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร
เงื่อนไขการใช้บริการผ่านระบบออนไลน์
1. ผู้รับบริการสามารถลงทะเบียนเป็นสมาชิกออนไลน์ สามารถสั่งซื้อสินค้าและบริการต่างๆที่โรงพยาบาลจัดขึ้นในเว็บไซด์ได้
2. ผู้รับบริการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ การทำธุรกรรมใดๆที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เช่น การซื้อแพ็คเกจตรวจสุขภาพออนไลน์ จะต้องได้รับความยินยอมจากบิดา มารดาหรือผู้ปกครองดูแลก่อน
3. ทางโรงพยาบาลอุบลรักษ์ ธนบุรี อาจไม่ให้บริการทางการแพทย์หากพบว่าผู้ให้บริการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ เช่น ชื่อ-นามสกุล เป็นต้น
4. ข้อมูลด้านสุขภาพของผู้รับบริการทางการแพทย์ถือว่าเป็นความลับส่วนบุคคล ทางโรงพยาบาลจะไม่นำไปเปิดเผยโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร
5. การชำระ การขอคืนเงิน หรือการยกเลิกการทำธุรกรรมผ่านเว็บไซด์ให้เป็นไปตามเงื่อนไขทางกฎหมาย หรือข้อกำหนดระหว่างคู่สัญญากับผู้ให้บริการโดยตรง
นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy)
×
Close
คุกกี้คืออะไร
คุกกี้ คือ ไฟล์ข้อความขนาดเล็กที่ถูกดาวน์โหลดไปยังอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือของผู้ใช้บริการ ซึ่งทำหน้าที่บันทึกข้อมูลและการตั้งค่าต่าง ๆ เช่น บันทึกข้อมูลการตั้งค่าภาษาในเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการ บันทึกสถานะการเข้าใช้งานในปัจจุบันของผู้ใช้บริการ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ที่ผู้ใช้บริการชื่นชอบในรูปแบบไฟล์ โดยคุกกี้ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์ของผู้ใช้บริการ และเนื้อหาในคุกกี้จะถูกเรียกออกมาดูหรืออ่านได้โดยเว็บไซต์ที่สร้างคุกกี้ดังกล่าวเท่านั้น
ประโยชน์ของคุกกี้
คุกกี้จะบอกให้โรงพยาบาลทราบว่าผู้ใช้บริการเข้าชมส่วนใดในเว็บไซต์ของโรงพยาบาล เพื่อที่โรงพยาบาลจะสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นและตรงกับความต้องการของผู้ใช้บริการได้ นอกจากนี้ การบันทึกการตั้งค่าแรกของเว็บไซต์ด้วยคุกกี้จะช่วยให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงเว็บไซต์ด้วยค่าที่ตั้งไว้ทุกครั้งที่ใช้งาน ยกเว้นในกรณีที่คุกกี้ถูกลบซึ่งจะทำให้การตั้งค่าทุกอย่างจะกลับไปที่ค่าเริ่มต้น
การใช้งานคุกกี้
โรงพยาบาลอุบลรักษ์ธนบุรี ใช้คุกกี้เพื่อรวบรวมสถิติผู้ใช้บริการและบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการกำหนดลักษณะของผู้ใช้บริการในขณะที่ผู้ใช้บริการใช้งานผ่านเว็บไซต์ จุดประสงค์ของโรงพยาบาลในการใช้คุกกี้ คือ เพื่อปรับปรุงการใช้งานเว็บไซต์ให้กับผู้ใช้บริการที่เป็นผู้เยี่ยมชม
วิธีปิดการทำงานของคุกกี้
ผู้ใช้บริการสามารถปิดการทำงานของคุกกี้ได้ โดยการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของผู้ใช้บริการ และตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพื่อระงับการรวบรวมข้อมูลของคุกกี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม บริการบางอย่างบนเว็บไซต์ของโรงพยาบาลจำเป็นต้องมีการใช้คุกกี้ หากผู้ใช้บริการปิดการทำงานคุกกี้อาจทำให้ผู้ใช้บริการใช้งานฟังก์ชันบางอย่างหรือทั้งหมดของบริการดังกล่าวได้อย่างไม่ราบรื่น
x
การคลิก "ยอมรับคุกกี้ทั้งหมด" แสดงว่าคุณตกลงที่จะจัดเก็บคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อปรับปรุงการนำทางเว็บไซต์ วิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ และช่วยเหลือในการดำเนินการทางการตลาดของเรา
ยอมรับคุกกี้ทั้งหมด